การสร้างบ้าน
เกร็ดความรู้ : ก่อนการสร้างบ้านได้อย่างที่ใฝ่ฝัน...8 ข้อที่ผู้รับเหมาอยากให้คุณทำความเข้าใจ
ใครๆ ก็อยากมีบ้านสวยๆ อย่างที่ฝันไว้ ทำงานเก็บเงินมามากขนาดไหน กว่าจะสร้างบ้านได้สักหลัง แต่บ้านที่สมบูรณ์แบบต้องมาจากความทุ่มเท ความเอาใจใส่ของเจ้าของบ้านและผู้อยู่อาศัย ซึ่งช่วงเวลาสำคัญที่สุดก็ตอนก่อสร้างนี่แหละ และผู้ที่มีบทบาทสำคัญก็คือ ตัวคุณนั่นเอง...ไม่ใช่ผู้ออกแบบหรือผู้รับเหมาแต่อย่างใด ดังนั้น ก่อนจะเจรจาว่าจ้างบริษัทที่ผ่านการคัดเลือกมาแล้ว คุณต้องทำการบ้านมาด้วย นอกจากจะช่วยสื่อสารความต้องการกับผู้รับเหมาให้เข้าใจตรงกันได้ถูกต้องแล้ว ยังช่วยให้คุณตรวจสอบงานเมื่อเสร็จสิ้นได้อย่างละเอียดครบถ้วนอีกด้วย
จากการสอบถามความคิดเห็นของผู้รับเหมาที่มีประสบการณ์ที่ทำงานมามากกว่า 20 ปี การพบปะลูกค้าหลากหลายอาชีพ หลากหลายสไตล์ พวกเขาต่างก็มีมุมมองว่า การสร้างบ้าน คือ งานที่ต้องทำร่วมมือร่วมใจกันทั้งสองฝ่าย ระหว่างทีมช่างกับลูกค้า ดังนั้น คุณในฐานะลูกค้าจำเป็นต้องศึกษา ค้นหาไอเดีย วางคอนเซปต์มาก่อนเช่นกัน แม้จะไม่มีความรู้พื้นฐานด้านการก่อสร้างบ้าน บางคนถึงขั้นออกปากว่า ตอกตะปูยังไม่เป็นเลย ใจเย็นๆ นะคะ เพราะหากมีแนวทางกำหนดมาบ้าง สามารถนำไปปรึกษาหารือกับทีมช่างได้ และนี่คือ 8ข้อ ที่ผู้รับเหมาอยากบอกลูกค้าทุกคนให้ทราบ ก่อนจะเริ่ม การสร้างบ้าน ให้สวยสมดั่งใจ
1. หาไอเดียที่ต้องการอย่างแท้จริง อยากได้บ้านแบบไหน สไตล์โมเดิร์น สไตล์ไทยๆ พื้นที่ตรงไหนใช้ทำอะไรบ้าง ชอบห้องนอนใหญ่ๆ เน้นให้มีพื้นที่ไว้ทำสวน เลี้ยงสุนัข อยากให้มีที่วิ่งเล่น วางแผนมีเจ้าตัวน้อยในอนาคต ต้องการห้องเล็กๆ ถ้าคุณไม่กำหนดพื้นที่ที่ต้องการให้ชัดเจน ทีมช่างก็จะไม่ทราบว่าจะต้องทำอย่างไร จุดนี้สำคัญมาก คุณควรออกไอเดียมาให้ เพื่อเป็นไกด์ในการออกแบบและก่อสร้าง แต่อย่าให้งานงอกมาเพิ่มโดยไม่จำเป็น เช่น กรณีเกิดเปลี่ยนใจกะทันหันเมื่องานเสร็จแล้ว แบบนี้อาจเสียทั้งเงินและเวลา โดยเปล่าประโยชน์
2. บอกงบประมาณให้เคลียร์ ไอเดียที่ร่างไว้ในข้อ 1 นั้น จะเป็นจริงได้แค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับเงิน!!! (เน้นย้ำไว้เลยค่ะ) ถ้าไม่ระบุงบไว้ให้ชัดเจนตั้งแต่เริ่มออกแบบ ระวังจะเจอผู้ออกแบบที่จัดเต็มให้อย่างอลังการ จากบ้านสองชั้นกลายเป็นปราสาทในนิทาน ค่าใช้จ่ายบานปลายไม่จบสิ้น อย่าลืมเผื่อค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดไว้สักประมาณ 15% สำหรับเรื่องที่คุณไม่คาดคิดมาก่อนไว้ด้วยนะคะ
3. กำหนดวัสดุและอุปกรณ์ที่อยากได้ ถ้าอยากได้งานไม้มาตกแต่งบ้าน ก็ควรบอกประเภทของไม้ที่ต้องการกับช่าง เช่น ไม้สัก ไม้เต็ง ไม้แอช ไม้เมเปิล มากมายหลายประเภท หรืองานกระเบื้อง ที่มีทั้งผิวมัน ผิวด้าน วอลเปเปอร์ กระจก โครงเหล็ก เป็นต้น ทุกประเภทล้วนมีราคาถูกและแพงแตกต่างกันไป ความสวยงามก็แตกต่างกันด้วย ลองไปเดินดูตามร้านที่ขายวัสดุ เผื่อคุณจะเกิดไอเดียได้มากขึ้น ลองสำรวจราคา ช่วยให้คำนวณงบค่าใช้จ่ายได้ง่ายขึ้น รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ เช่น มือจับ บานพับ เป็นต้น การเลือกวัสดุและอุปกรณ์ขึ้นอยู่กับสไตล์ของคุณค่ะ คุณควรเป็นคนเลือกเองจะดีกว่าค่ะ
4. หาตัวอย่างสีที่ชัดเจนมาให้ ถ้าคุณบอกช่างว่า อยากได้สีฟ้า สีฟ้าแบบไหน ควรเลือกสีให้ชัดเจนไปเลยค่ะ ไม่ใช่บอกช่างว่าเป็นสีฟ้าตอนเช้า ตอนสายแดดจ้าๆ ยามบ่าย ยามเย็น อย่างนี้ไม่ได้นะคะ เพราะแต่ละเฉดสีมีเป็นร้อยโทนสี แพนโทนยังมีการปรับเพิ่มสีขึ้นแทบทุกปี เพราะฉะนั้น ควรหาตัวอย่างสีให้ชัดเจน หรือระบุตามแพนโทน (Pantone Color Chart) เลยก็ได้ ซึ่งไม่จำเป็นว่าคุณจะทำงานสายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องสีหรอกนะคะ สามารถเข้าไปดาวน์โหลดแพนโทนได้ในอินเทอร์เน็ต ลองค้นหาจากกูเกิล ก็จะมีเว็บไซต์มาให้เลือกมากมาย ง่ายนิดเดียว เมื่อได้สีที่ตรงใจ จดรหัสที่กำหนดไว้ในแพนโทนให้ช่างสีหรือช่างออกแบบ รับรองว่า สีไม่เพี้ยน บ้านสีสวยงามสมใจนึก
5. ทำความเข้าใจกับข้อตกลง ก่อนเริ่มงาน การทำสัญญาเป็นสิ่งสำคัญมาก คุณต้องรู้ว่า งานทำไปถึงไหน ผู้รับเหมาถึงจะเบิกเงินตามงวดกับคุณได้ ตั้งแต่เริ่มจนงานเสร็จ สามารถเบิกเงินได้กี่งวด ที่สำคัญคือ การกำหนดระยะเวลาการทำงานให้ผู้รับเหมา ซึ่งในสัญญาต้องมีความชัดเจน และเข้าใจตรงกันทั้งสองฝ่าย มีเอกสารยืนยันตัวตน เช่น สำเนาบัตรประชาชน และเมื่อทำสัญญากันแล้ว ทั้งสองฝ่ายต้องดำเนินการตามที่ตกลงกันไว้
6. อำนวยความสะดวกในการทำงาน ยกตัวอย่างกรณีก่อสร้างตกแต่งภายในหมู่บ้านจัดสรร หรือคอนโดมิเนียม ที่ต้องผ่านการตรวจตราเมื่อเข้าออก ควรแจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย พร้อมหาที่จอดรถให้ผู้รับเหมา เพื่อสะดวกต่อการขนย้ายของ และอุปกรณ์ก่อสร้างต่างๆ อีกประการหนึ่ง คือ เวลาทำงานแล้วเกิดเสียงดังไปยังละแวกบ้านใกล้เคียง ควรแจ้งให้ผู้ดูแลโครงการ หรือบ้านใกล้เรือนเคียงทราบก่อนนะคะ ถือเป็นการสานสัมพันธ์ที่ดีไว้ก่อนล่วงหน้า
7. อย่าลืมเก็บหลักฐานของผู้รับเหมา แน่นอนว่า ก่อนจะว่าจ้างช่างจากบริษัทใดก็ตาม คุณต้องค้นหา ตรวจสอบข้อมูล ความน่าเชื่อถือ ผลงาน และฝีมือของทีมช่างมาเป็นอย่างดี ควรเก็บหลักฐานแสดงตัวตน เช่น สำเนาบัตรประชาชน เมื่อทำสัญญาร่วมกัน รวมไปถึงหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อหลัก หรือสำรอง หากเกิดกรณีโดนเทงานกลางทาง จะได้มีหลักฐาน และตามตัวช่างได้ แต่หากเป็นกรณีอื่นๆ เช่น มีปัญหาระหว่างการทำงาน ซึ่งเราเข้าไปพบ และต้องการสอบถามกับหัวหน้าทีมช่าง หรือมีข้อสงสัยใดๆ เพิ่มเติม รับรองได้ว่า ช่วงนั้นสายที่โทรออกบ่อยที่สุด จะเหมือนว่าคุณได้สนิทกับหัวหน้าทีมช่างรับเหมาไปเลยนั่นแหละ
8. เตรียมรับมือกับเรื่องปวดหัวได้เลย ไม่มีงานไหนดำเนินไปได้อย่างราบรื่น ต้องมีปัญหา มีสะดุดกันบ้าง เจอเรื่องให้แก้ไขกันตลอดเวลา ผู้รับเหมาจึงอยากฝากมาบอก นอกจากเตรียมตั้งแต่ข้อที่ 1 ถึง 7 มาเป็นอย่างดีแล้ว สูดหายใจเข้าออกลึกๆ ยาวๆ แล้วเตรียมพร้อมรับมือกับสารพัดเรื่องให้ช่วยกันแก้กับทีมช่างได้เลย จนกว่าจะปิดงานได้สมบูรณ์ แม้ทีมช่างมืออาชีพจะจัดการไว้ให้บ้างแล้ว ก็ไม่แคล้วว่าคุณต้องเข้าไปจัดการเองในบางเรื่อง สิ่งนี้เป็นสิ่งที่คนทำงานฝากบอกเอาไว้ แต่อาจไม่มีอะไรให้วุ่นวายขนาดนั้นก็ได้ แค่เตรียมรับมือให้พร้อมก็พอ... แล้วก็ออกลุยได้เลย
รู้อย่างนี้แล้ว ไม่ยุ่งยากเกินไปใช่ไหมคะ อาจจะเหนื่อยสักหน่อย มีเรื่องให้ปวดหัวไปบ้าง ตั้งแต่แรกเริ่ม ระหว่างที่ช่างก่อสร้างบ้าน พอเริ่มเห็นเป็นรูปเป็นร่าง ทีละห้อง ทีละงาน คนที่ปลื้มใจที่สุดก็คือ คุณนั่นเอง (เน้นย้ำชัดๆ อีกประการ) จนเมื่อ การสร้างบ้าน เสร็จสมบูรณ์ คุณจะมองบ้านหลังนั้นอย่างภาคภูมิใจที่สุด แค่นึกก็มีความสุขแล้วนะคะ ว่าแล้วก็ขอบรรเลงเพลง เด็กสร้างบ้าน ประกอบละครเรื่องดังอย่าง เคหาสน์ดาว “หากว่าใครจะสร้างบ้านสักหลังหนึ่ง ไม่มีใครจะเริ่มต้นจากหลังคา เริ่มจากบานประตู สนามหญ้า หรือว่าขั้นบันได หากว่าเราจะมีบ้านสักหลังหนึ่ง ไม่จำเป็นว่ามันจะต้องหลังใหญ่ แค่มีเธอกับฉัน คู่กันไป แค่นั้นก็คงเพียงพอ” เพราะไม่มีอะไรยากเกินความตั้งใจ บ้านหลังใหญ่แค่ไหน คุณก็ต้องสร้างได้อย่างที่อยากให้เป็น….