ระบบรักษาความปลอดภัยที่บ้านชั้นเดียวควรมี

• ระบบรักษาความปลอดภัย ถือเป็นสิ่งที่ควรติดตั้งไว้ในบ้านเป็นอย่างมาก เพื่อป้องกันอันตรายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น เช่น ไฟฟ้ารั่ว เพลิงไหม้ หรือแม้แต่การโจรกรรม โดยเฉพาะ บ้านชั้นเดียว มีความเสี่ยงสูงมาก ด้วยลักษณะของตัวบ้านที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย ทั้งนี้ ระบบดังกล่าวจะช่วยให้ผู้อยู่อาศัยปลอดภัยจากอันตราย และรู้สึกอบอุ่นใจเมื่อไม่อยู่บ้านอีกด้วยค่ะ

พื้นฐานความต้องการของมนุษย์เรานอกจากปัจจัย 4 แล้ว ก็มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินจริงไหมคะ? ด้วยสภาวะของเศรษฐกิจที่ฝืดเคือง ส่งผลให้ชีวิตของเราอยู่ในความเสี่ยงจากอาชญากรรมที่เพิ่มขึ้นทุกวัน หากบ้านคุณมีลักษณะเป็น บ้านชั้นเดียว ถือว่ามีเสี่ยงต่อการถูกโจรกรรม ถูกปล้น การเกิดเพลิงไหม้ ไฟฟ้าดูด ฯลฯ ซึ่งล้วนแต่ส่งผลถึงความปลอดภัยในชีวิตของคุณทั้งสิ้น ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยเข้ามาเป็นตัวช่วยอีกทางหนึ่ง เรามาดูกันดีกว่าค่ะ ว่าระบบรักษาความปลอดภัยแบบไหนบ้างที่บ้านคุณควรมี

1.ติดตั้งกล้องวงจรปิด

กล้องวงจรปิดเป็นอุปกรณ์ช่วยป้องกันภัยจากเหตุโจรกรรมได้อีกทาง และเป็นสิ่งที่ทุกบ้านควรจะติดตั้งไว้ โดยการทำงานของกล้องวงจรปิด จะทำการบันทึกภาพวิดีโอได้ทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน หากเป็นสมัยก่อนเมื่อมีโจรขึ้นบ้าน อาจจะตามจับตัวผู้ก่อเหตุได้ยาก เนื่องด้วยคุณภาพของไฟล์วิดีโอไม่มีความคมชัด อีกทั้งยังเป็นสีขาวดำ จึงเห็นหน้าคนร้ายไม่ชัดเจน แต่ปัจจุบันตัวกล้องมีการพัฒนาให้เป็นภาพสี และยังสามารถมองภาพในช่วงเวลากลางคืนได้ดี เนื่องจากตัวกล้องมีระบบอินฟาเรดที่ช่วยเพิ่มความคมชัดของภาพในเวลากลางคืน ส่วนการใช้งาน คุณสามารถเปิดชมภาพจากกล้องวงจรปิดได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นต่างจังหวัด หรือต่างประเทศ โดยการเชื่อมต่อเข้ากับมือถือ ซึ่งการติดตั้งกล้องวงจรปิดจะช่วยให้เราไหวตัวได้ทัน เมื่อมีคนบุกรุกเข้ามาภายในบริเวณบ้าน

นอกจากจะช่วยเรื่องการป้องกันโจรกรรมแล้ว ก็ยังช่วยให้คุณสามารถสอดส่องดูแลคนในบ้านได้ กรณีคุณออกไปทำธุระนอกบ้าน แต่ในบ้านมีผู้สูงอายุอยู่เพียงลำพัง แค่เปิดกล้องตรวจสอบความเรียบร้อย เผื่อท่านเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉิน เรายังขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านใกล้เคียงได้ทัน หากเกิดอัคคีภัย เมื่อเห็นภาพจากกล้องวงจรปิด รีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือได้ทันท่วงที และดับเพลิงได้ก่อนที่จะลุกลาม

2.สัญญาณกันขโมย

เนื่องจากปัจจุบันมีกลุ่มมิจฉาชีพหลายรูปแบบ อุปกรณ์ป้องกันจึงต้องมีให้เลือกมากมายหลายประเภท นอกจากกล้องวงจรปิดแล้ว ยังมีสัญญาณกันขโมยที่นิยมใช้กัน โดยตัวเครื่องจะส่งสัญญาณเตือนเมื่อมีผู้บุกรุกเข้ามาในพื้นที่บ้านของเรา แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ

• แบบระบบไฟฟ้า คือ ใช้ไฟฟ้าเป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์แต่ละชิ้นเข้าด้วยกัน ขอแนะนำว่า ควรเดินสายไฟแบบลอย เนื่องจากจะง่ายต่อการบำรุงรักษา และการซ่อมแซม ซึ่งสัญญาณกันขโมยบ้านประเภทนี้ มักจะได้รับความนิยมจากคนส่วนใหญ่ เนื่องจากคุณภาพของการส่งสัญญาณมีความแน่นอนและแม่นยำ ราคาไม่แพงมาก และทำความสะอาดได้ง่าย
• แบบระบบไร้สาย มีระบบการทำงานไม่แตกต่างจากระบบใช้ไฟฟ้า โดยจะส่งสัญญาณระหว่างเครื่องตรวจจับสัญญาณไปยังเครื่องรับสัญญาณ และเปลี่ยนมาเป็นการใช้ระบบคลื่นวิทยุแทน เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการส่งสัญญาณ ข้อดีคือ ง่ายต่อการติดตั้งเข้ากับตัวบ้าน แต่ก็ไม่เหมาะกับสถานที่ หรือบ้านที่มีขนาดใหญ่ เนื่องจากคลื่นวิทยุไม่สามารถส่งสัญญาณได้ไกลเท่าไรนัก

3.สายดิน

สายดินถือเป็นอุปกรณ์ป้องกันไฟรั่วสำคัญเป็นอันดับแรก ที่บ้านทุกหลังจะต้องมีไว้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นบ้านชั้นเดียว หรือบ้านสองชั้น หลักการทำงานคือ เมื่อเกิดไฟฟ้าลัดวงจร หรือไฟฟ้ารั่ว สายดินจะช่วยตัดกระแสไฟฟ้าทันที และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องมีสายดินคือ อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีโครง หรือเปลือกหุ้มเป็นโลหะ เช่น ตู้เย็น เตารีด เครื่องซักผ้า หม้อหุงข้าว เครื่องปรับอากาศ เตาไมโครเวฟ กระทะไฟฟ้า กระติกน้ำร้อน เครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องปิ้งขนมปัง เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ทุกบ้านมี และมีโอกาสสัมผัสกันทุกคน เราจึงต้องมีสายดินเพื่อป้องกันไฟฟ้ารั่วนั่นเองค่ะ

4.อุปกรณ์ตัดไฟ

ถ้าพูดถึงเครื่องตัดไฟรั่ว หลายคนอาจจะไม่คุ้นหูกับคำนี้เท่าไรนัก แต่หากพูดคำว่าว่า Safe-T-Cut (เซฟทีคัท) ก็จะร้องอ๋อ! ขึ้นมาทันที ซึ่งความจริงแล้ว ก็คือ อุปกรณ์ชนิดเดียวกัน เพียงแต่เป็นชื่อยี่ห้อที่เราเรียกกันจนติดปาก หลักการทำงานของมันมีหน้าที่ป้องกันอันตรายจากไฟฟ้ารั่ว ไม่ว่าจะรั่วลงดิน หรือรั่วผ่านร่างกายของคน เมื่อเกิดไฟรั่วขึ้นเมื่อใด ระบบจะตัดกระแสไฟฟ้าโดยอัตโนมัติทันที ข้อแนะนำในการเลือกซื้อ ตัวเครื่องตัดไฟรั่วจะต้องมีมาตรฐานตาม IEC60755 ,IEC61008 IEC61009 ,IEC61543 ,มอก.2425-2552 หรือ มอก.909-2548 เป็นสำคัญ นอกจากนี้ เพื่อความปลอดภัยอย่างสูงสุดในการใช้งานต้องตรวจสอบการทำงานของเครื่องอย่างสม่ำเสมอ โดยกดปุ่ม (TEST) เพื่อทดสอบการทำงานว่าเครื่องยังทำงานปกติหรือไม่ ซึ่งปุ่มจะมีลักษณะเป็นปุ่มเล็กๆ บนตัวเครื่อง เมื่อกดปุ่มสวิตซ์ที่เครื่องตัดไฟรั่ว สวิตซ์จะตกลงมาทันที แสดงว่าเครื่องตัดไฟรั่วนั้นทำงานได้อย่างปกติค่ะ

5.อุปกรณ์ตรวจจับควัน

เป็นมาตรการเฝ้าระวังอัคคีภัยโดยใช้อุปกรณ์ตรวจจับควัน (Smoke Detector) ตรวจจับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเมื่อเกิดควัน หรือไฟลุกไหม้ เครื่องจะส่งสัญญาณออกมาเพื่อเป็นการเตือนภัย เหมาะมากที่จะติดตั้งไว้ในห้องครัว หรือห้องพระ เพราะทั้ง 2 จุดนี้จะมีการใช้ไฟอยู่เสมอ ไม่ว่าจะจุดธูปเทียนไหว้พระ หรือการตั้งเตาประกอบอาหาร บางครั้งเราพลั้งเผลอลืมดับไฟ อุปกรณ์นี้จะช่วยส่งสัญญาณแจ้งเตือน และเจ้าเครื่องนี้ยังสามารถส่งสัญญาณร้องเตือน ตั้งแต่เป็นกลุ่มควัน โดยที่ไม่ต้องรอให้เกิดเปลวไฟค่ะ

6.แบตเตอรี่สำรอง

แบตเตอรี่ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญที่เหมือนเป็นตัวช่วยหล่อเลี้ยงวงจรไฟฟ้าต่างๆ ภายในบ้าน หากเกิดปัญหาเกี่ยวกระแสไฟฟ้า เช่น กรณีไฟฟ้าดับ เหตุฉุกเฉินไฟฟ้าลัดวงจร หรือมีผู้บุกรุกตัดกระแสไฟฟ้าภายในบ้าน แบตเตอรี่จะทำหน้าที่สำรองไฟฟ้าให้ทำงานได้ตามปกติ เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินดังกล่าวขึ้น คุณควรมีแบตเตอรี่สำรองติดบ้านไว้ด้วยนะคะ สำคัญมากค่ะ!

7.ถังดับเพลิง

อุปกรณ์ดับเพลิงยามฉุกเฉิน สามารถยกเคลื่อนที่ได้ และใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก โดยตัวเครื่องประกอบไปด้วยถังแรงดัน ซึ่งบรรจุน้ำ หรือสารเคมีดับไฟอื่นๆ มือจับ ไกเปิด/ปิด สลักนิรภัย และสายฉีด ตัวถังดับเพลิงมักจะเป็นสีแดงเพื่อให้มองเห็นได้ง่าย และออกแบบไว้สำหรับการดับเพลิงไหม้ที่ยังไม่ลุกลาม เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ผู้ใช้สามารถหิ้วถังจากจุดติดตั้งมายังบริเวณที่เกิดเหตุ ดึงสลักนิรภัยออก จับสายฉีดให้ปลายหันเข้าหาเปลวไฟ และเมื่อทำการบีบไก น้ำหรือสารเคมีที่อยู่ภายในถังก็จะพุ่งตรงออกมาเพื่อดับไฟค่ะ ทั้งนี้ควรติดตั้งไว้บริเวณที่สามารถหยิบจับได้สะดวกด้วยนะคะ จะได้ดับไฟทันก่อนไฟจะลุกลามไปมากยิ่งขึ้น

สาเหตุที่ บ้านชั้นเดียว ควรมีอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยเหล่านี้ สืบเนื่องมาจากการดูแลรักษาโดยเจ้าของบ้าน หรือคนภายในบ้านอาจไม่เพียงพอและทั่วถึง จึงจำเป็นต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยอื่นๆ เข้ามาช่วยป้องกันภัยที่คาดไม่ถึง ไม่ว่าคุณจะอยู่หรือไม่อยู่บ้าน แค่ติดตั้งอุปกรณ์เหล่านี้ไว้ ก็ช่วยให้บ้านของคุณปลอดภัย และสร้างความอุ่นใจให้กับทุกคนในครอบครัวได้แล้วค่ะ

นามปากกา เสาเข็ม

สาว สวย สูง สุดสตรอง จิตใจหนักแน่น แข็งแกร่ง เปรียบเสมือนเสาเข็มของบ้าน รากฐานบ้านที่คงทน ต้องอาศัยความมั่นคงของเสาเข็ม